รถเป็นสนิม ทำไงดี !
ปัญหากวนใจ เมื่อรถเป็นสนิม ควรทำยังไงดี ? “สนิม” ปัญหาที่กวนใจคนรักรถ สำหรับรถใหม่เพิ่งซื้ออาจไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เท่าไร เพราะสีรถยังอยู่ดีและยังได้รับการขัดเคลือบสีมาจากโชว์รูมอยู่แล้ว แต่รถที่ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน หรือเคยเฉี่ยวชนมาก่อนจนสีหลุดลอก ย่อมมีโอกาสเกิดสนิมได้ทุกคัน! ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยปละละกับเรื่องของสนิม เพราะถึงแม้ว่าจะดูเป็นปัญหาเล็กน้อยไม่น่าก่อให้เกิดอันตราย ๆ แต่อาจสร้างผลกระทบร้ายแรงตามมาอย่างคาดไม่ถึงได้ สำหรับคนที่กำลังรู้สึกกังวลเรื่องรถเป็นสนิมอยู่ วันนี้เรามีแนวทางการดูแลรถที่รับประกันว่า ปฏิบัติตามแล้วสนิมจะไม่มากวนใจอย่างแน่นอน
ปัญหากวนใจ เมื่อรถเป็นสนิม ควรทำยังไงดี ?
รถยนต์เป็นสนิมเกิดจากอะไร
สนิม เกิดจากการทำปฏิกิริยาเคมีระหว่างเหล็ก ออกซิเจน น้ำหรือความชื้นในอากาศ อธิบายง่าย ๆ คือ บริเวณไหนที่มีสีเคลือบอยู่จะไม่เกิดสนิม เพราะที่เคลือบอยู่นั้นจะช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้ แต่เมื่อไรสีหลุดก็สามารถเกิดสนิมได้ เพราะไม่มีอะไรปกป้องอีกต่อไป ส่วนสาเหตุที่ทำให้รถเกิดสนิม มีดังนี้
1. สีรถยนต์ถลอกเป็นสนิม : เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ถูกกิ่งไม้ขูดขีด ก้อนดิน หรือหินกระเด็นมาชน เมื่อสีรถถลอกจะส่งผลให้เหล็กบริเวณนั้นเกิดสนิมได้ง่าย สำหรับพื้นผิวด้านนอกที่มีสีเคลือบอยู่ หากสีไม่ลอกก็จะไม่เป็นสนิม แต่มีบางจุดที่ไม่มีสีเคลือบ ถึงแม้จะเหมือนอยู่ด้านในตัวรถแต่ก็อาจเกิดสนิมได้
2. เศษหินกระเด็นโดน : เมื่อโดนเศษหินกระเด็นใส่จนเกิดการกะเทาะหรือทำให้สีรถเกิดการถลอกก็ทำให้เกิดสนิมได้
3. สีรถหลุดเป็นสนิม : เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้รถผ่านการใช้งานเป็นเวลานานก็ทำให้ก็สามารถทำให้สีเกิดการเสื่อมคุณภาพได้ และลอกล่อนได้ ทำให้เป็นสนิมตามมาในภายหลัง
4. อุบัติเหตุ : ไม่ว่าจะเป็นการเฉี่ยวชนจนสีเคลือบรถหลุดล่อน ย่อมมีโอกาสที่สีรถยนต์จะถลอกเป็นแผลขนาดใหญ่ก็อาจเป็นได้ในบริเวณกว้างเลยทีเดียว
5. การเติมน้ำมัน : น้ำมันก็สามารถทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสนิมได้เช่นกัน
รถเป็นสนิมบริเวณใดได้บ้าง
- ฝากระโปรงรถยนต์ : ด้วยเพราะอุณหภูมิที่ร้อน ทำให้สีที่เคลือบอาจเกิดการสึกหรอได้ตามอายุการใช้งาน
- ล้อรถยนต์ : ส่วนที่พบบ่อย ๆ นั้นจะบริเวณจานเบรกที่เป็นเหล็กหนา เพราะจะไม่มีสีหรือสารใดเคลือบเพื่อกันสนิม
- ใต้ท้องรถยนต์ : เป็นส่วนที่อยู่ต่ำเวลาขับขี่บนพื้นน้ำแล้วโคลนกระเด็นมาโดนได้ง่าย ทำให้เกิดการหมักหมม และยากต่อการทำความสะอาดมีโอกาสที่จะเป็นสนิมได้
- บานพับประตู : เป็นจุดที่หลายคนคาดไม่ถึงและต้องเปิดปิดบ่อย ๆ ทำให้สีที่เคลือบอาจเกิดการสึกหรอได้ตามอายุการใช้งาน
รถเป็นสนิมทำอย่างไรดี
- เริ่มจากนำผ้าไปเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องการ
- ใช้กระดาษทรายขัดได้ แต่ควรใช้เบอร์ละเอียดตั้งแต่ 800 ขึ้นไป เช็ดคราบสนิมออก แต่จานเบรกที่เป็นสนิมสามารถปล่อยเอาไว้แบบนั้นได้โดยไม่ต้องไปยุ่งอะไร ห้ามนำน้ำมันหล่อลื่นใด ๆ ไปกำจัดสนิมที่จานเบรก เพราะอาจจะทำให้ลื่นจนเบรกไม่อยู่แล้วเกิดอุบัติเหตุตามมาได้
- ทาจาระบีลงไปเพื่อช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้ดียิ่งขึ้น
- ควรนำรถเข้าศูนย์บริการสำหรับกำจัดสนิมออกแล้วทำสีใหม่ เนื่องจากถ้าปล่อยให้สีลอกอยู่แบบนั้น สนิมก็จะกลับมาใหม่อยู่ดี
อย่ารอให้จนรถยนต์เกิดสนิมแล้วค่อยทำการรักษา แต่ควรต้องดูแลขัดเคลือบสีรถอยู่เสมอเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดสนิมไม่ว่าจะเป็นฉีดน้ำยาป้องกันสนิม หากเกิดการเฉี่ยวชนจนสีถลอกก็อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ควรนำไปซ่อมให้เร็วที่สุด อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือควรที่จะตรวจเช็คส่วนต่าง ๆ ของรถที่มีโอกาสเป็นสนิมง่ายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เจอสนิมได้เร็ว สามารถกำจัดได้ง่าย โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองจำนวนมากนั่นเอง
ที่มา www.autocareth.com