“ลืมกุญแจไว้ในรถ” จะทำยังไง ?
ปัญหาโลกแตก ลืมกุญแจไว้ในรถ จะทำยังไงดี ? เรื่องการลืมกุญแจรถไว้ในรถยนต์ของตนเอง เป็นปัญหาที่เรียกได้ว่าเหมือนจะเป็นเรื่องโจ๊กของตนเองสักเรื่อง แต่ใครที่ประสบกับตัวเองมันไม่ตลกเอาเสียเลย เพราะมันต้องหาวิธีที่จะเอากุญแจออกมานั้นมันวุ่นวายเสียเหลือเกิน จนทำให้ใครหลายคนเลือกที่จะแขวนกุญแจรถไว้กับหูกางเกงแทนเพื่อตัดปัญหา แล้วถ้ากรณีไม่ได้เอาไว้กับตัวล่ะจะทำยังไงล่ะคราวนี้ ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีในการแก้ปัญหาจากการ “ลืมกุญแจไว้ในรถ” โดยจะอธิบายผ่านในบทความได้ดังนี้ว่ามีอะไรบ้าง แล้วถ้ามันไม่ได้เราจะทำยังไงดีหลังจากนี้?
ปัญหาโลกแตก ลืมกุญแจไว้ในรถ จะทำยังไงดี ?
- ตั้งสติก่อน อย่าเพิ่งโวยวาย ให้นึกให้ออกว่าเราลืมกุญแจไว้ที่บริเวณส่วนไหนของรถยนต์ หาให้เจอจนกว่าคุณจะแน่ใจว่า…มันหายในรถจริงๆ ถ้าหายในรถจริงๆ เรายังมีโอกาสเจอ แต่ถ้าหายจากจุดอื่นที่ไม่ใช่รถ อันนี้ให้หยิบกุญแจสำรองมาใช้ให้เร็วที่สุด
- ถ้าเป็นกรณีแบบปกติ จะต้องปลดล็อกด้วยรีโมทหรือใช้วิธีบิดล็อกกุญแจ จะนำกุญแจออกมาจากรถได้เนื่องจากระบบไม่ได้ล็อกไว้ หรือถ้ามีการสูญหายด้วยให้โทรหาช่างกุญแจทันที
- โดยปกติแล้ว รถยนต์ทุกๆ คัน จะมีทั้งกุญแจที่ใช้ดอกจริงและดอกสำรองติดมาเพื่อป้องกันการลืม ซึ่งกุญแจสำรองที่ทางโชว์รูมให้มาอีก 1 ดอก จะเป็นตัวที่จำเป็นต่อการใช้งานอย่างมากนอกจากดอกจริง หากใครลืมกุญแจจริงไว้ในรถยนต์นั้น คงต้องเสียเวลาสักนิดที่จะกลับบ้านของตน เพื่อไปเอากุญแจสำรองมาใช้เพื่อทดแทน หรือถ้าไม่อยากเสียเวลามากกว่าเดิม ควรปั๊มกุญแจสำรองเพิ่มอีก 1 ดอกไว้บ้างจะดีกว่ามีแต่ใช้อะไรไม่ได้เลย วิธีนี้ใช้ได้ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์
- หากใครใช้รถยนต์พวก Keyless Entry หรือใช้แบบรีโมท มักจะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ ถ้าหากลืมกุญแจรถยนต์ไว้ภายในรถของคุณเองเมื่อไหร่ รถยนต์มันจะไม่ล็อกตัวมันเอง แต่หากใครที่ติดตั้งระบบป้องกันโจรกรรม เช่น การติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยสำหรับรถยนต์ของคุณเอาไว้ ในบางรุ่นอาจจะเกิดการล็อกรถยนต์โดยอัตโนมัติได้เช่นกัน ซึ่งต้องดูเป็นกรณีว่ารถยนต์ของคุณเป็นรูปแบบนี้ไหม ถ้าเป็นเช่นนี้ให้ใช้กุญแจสำรองใช้ในการเปิดรถทันที เพราะมันจะเร็วกว่ากันค่อนข้างมาก
- การงัดรถควรเป็นขั้นตอนสุดท้ายถ้ามันจนปัญญาจริงๆ งัดรถจะช่วยให้เราเอากุญแจออกได้สบายๆ ซึ่งควรมีเป็นสกิลติดตัวมากกว่าติดเป็นนิสัย หรือถ้ามันเกินปัญญาตนจริงๆ ให้โทรขอความช่วยเหลือจากสายด่วน เช่น สายด่วน บก.02 โทร. 1197 ซึ่งเป็นสายที่โทรบ่อยที่สุด หรือ สวพ.91 โทร. 1644 หรือขอความช่วยเหลือจาก จส.100 โทร. 1137 ก็สามารถช่วยเหลือคุณได้เช่นกัน
ที่มา news.trueid.net